ในปัจจุบันการเรียนจบในระดับปริญญาโท ถือเป็นใบเบิกทางที่ดีในหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะในด้านการทำงาน ทำให้น้อง ๆ นักศึกษาที่กำลังศึกษาในระดับปริญญาตรี สนใจที่จะเรียนต่อปริญญาโทกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่นักเรียน นักศึกษาในประเทศไทย สนใจไปเรียนต่อปริญญาโทที่ต่างประเทศกันทั้งนั้น และประเทศที่ได้รับความนิยมมากที่สุด มีอยู่ 2 ประเทศด้วยกัน คือ ประเทศสหรัฐอเมริกา และ ประเทศอังกฤษ โดยทั้ง 2 ประเทศ เป้นประเทศที่มีนักเรียน นักศึกษานานาชาติ เลือกเดินทางไปศึกษาต่อเป็นจำนวนมาก เนื่องจากระบบการศึกษาที่ได้มาตรฐานสากล มีคุณภาพ และมหาวิทยาลัยได้รับการยอมรับในระดับโลก จึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมอเมริกาและอังกฤษ ถึงเป็นประเทศที่ผู้ปกครองอยากส่งลูกหลานไปเรียนมากเป็นอันดับต้น ๆ
อย่างที่ทราบกันดีว่า ทั้ง 2 ประเทศนี้ มีมหาวิทยาลัยที่ได้รับการยอมรับระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น University of Oxford , University of Cambridge , Princeton University และ Harvard University ซึ่งมหาวิทยาลัยเหล่านี้ ถูกจัดให้เป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำที่ดีที่สุด เนื่องจากมีระบบการศึกษาที่ได้มาตรฐาน หลักสูตรมีคุณภาพ มีสภาพแวดล้อมที่ดี และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันนั่นเอง
ข้อแตกต่างระหว่างเรียนต่อปริญญาโทที่ อเมริกา และ อังกฤษ
เชื่อว่า น้อง ๆ หลายคนเกิดความลังเลใจ ว่าจะเลือกไปเรียนต่อที่ประเทศไหนดี ระหว่างประเทศอเมริกา และ ประเทศอังกฤษ เพราะทั้ง 2 ประเทศนี้ มีความโดดเด่นและความน่าสนใจในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวัฒนธรรม การใช้ชีวิต สภาพแวดล้อม รวมไปถึงด้านภาษาและความรู้ที่จะได้รับ ซึ่งในวันนี้เราได้ทำการรวบรวมข้อแตกต่างของ 2 ประเทศนี้ เพื่อนำแบ่งปันให้กับน้อง ๆ ใช้ประกอบการตัดสินใจ โดยข้อแตกต่างระหว่างเรียนต่อปริญญาโทที่อเมริกาและเรียนต่อปริญญาโทที่อังกฤษ มีดังนี้
- ด้านวัฒนธรรมและการใช้ชีวิต ในประเทศอังกฤษจะมีเอกลักษณ์ในด้านวัฒนธรรมที่เก่าแก่ ความเป็นผู้ดีและมีมารยาท ผู้คนยิ้มแย้ม มีความเกรงอกเกรงใจกัน รวมถึงให้ความสำคัญกับเวลาน้ำชา อีกทั้งยังมีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจอีกมากมาย ส่วนประเทศสหรัฐอเมริกา จะเป็นประเทศที่มีเสรีภาพ มีวัฒนธรรมที่หลากหลาย เนื่องจากมีผู้คนจากหลายเชื้อชาติมาอยู่อาศัยที่นี่เป็นจำนวนมาก จึงทำให้ผู้คนพร้อมที่จะเรียนรู้วัฒนธรรมใหม่ ๆ อยู่เสมอ นอกจากนี้การใช้ชีวิตประจำวันกันอย่างเร่งรีบ ตื่นตัวและแข่งขันกันสูงในทุก ๆ ด้าน
- ค่าเทอม ส่วนมากมหาวิทยาลัยจะมีการเรียกเก็บ จำนวนค่าเทอมตามมาตรฐานของแต่ละที่ และขึ้นอยู่กับว่าเป็นมหาวิทยาลัยเอกชน หรือเป็นมหาวิทยาลัยที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล เพราะถ้าเป็นเอกชนค่าเทอมจะสูง แต่ถ้าเป็นรัฐค่าเทอมจะถูก ซึ่ง 2 ประเทศมีความคล้ายกัน และจากการสำรวจ พบว่าอเมริกามีจำนวนการเก็บค่าเทอมที่สูงกว่าอังกฤษอีกด้วย
- ค่าครองชีพ ทั้ง 2 ประเทศ มีค่าครองชีพในหลายด้านใกล้เคียงกัน เพราะส่วนใหญ่ค่าครองชีพจะขึ้นอยู่กับแต่ละเมือง ถ้าเป็นเมืองเล็กค่าครองชีพจะต่ำ แต่ถ้าเป็นเมืองใหญ่ค่าครองชีพจะสูง แต่โดยภาพรวมแล้วประเทศอังกฤษจะมีค่าครองชีพต่ำกว่าประเทศอเมริกา
- ระยะเวลาในการเรียนปริญญาโท โดยประเทศอเมริกามหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ มีระยะเวลาในการเรียนระดับปริญญาโทประมาณ 2 ปี ส่วนปริญญาโทที่ประเทศอังกฤษ ใช้เวลาเรียนเพียง 1 ปีเท่านั้น เนื่องจากหลักสูตรที่มีความแตกต่างกันนั่นเอง
- ผลการวัดทักษะด้านภาษาอังกฤษ การใช้ผลคะแนนด้านภาษาอังกฤษเรียนต่อ ระดับชั้นปริญญาโทในประเทศอเมริกาใช้ผลคะแนน TOEFL ประมาณ 80 -100 ขึ้นไป สำหรับประเทศอังกฤษ หากนักศึกษาต่างชาติต้องการศึกษาต่อระดับปริญญาโท ต้องใช้คะแนน IELTS ประมาณ 6.5-7.0 ขึ้นไป ซึ่งจะแตกต่างกันที่ใช้คะแนนจากการสอบคนละตัวนั่นเอง
- รูปแบบการเรียนการสอน การเรียนการสอนปริญญาโทที่อเมริกา จะมีการเน้นให้ความรู้ควบคู่ไปกับการมอบหมายงาน การบ้าน รวมถึงงานวิจัยให้กลับไปลงมือทำเอง และสามารถเลือกลงเรียนวิชาที่อยากลงได้ตามใจนักศึกษา ส่วนประเทศอังกฤษการเรียนปริญญาโทที่นี่จะค่อนข้างหนัก เน้นการทำโปรเจค วิทยานิพนธ์เชิงลึกระยะยาว และสามารถลงเรียนวิชาของสาขาได้เพียงเท่านั้น
- ที่พักอาศัย ทั้ง 2 ประเทศ ให้นักศึกษาสามารถเลือกที่พักได้ ว่าจะหาที่พักเองด้านนอก หรือพักหอพักในมหาวิทยาลัย แต่ถ้าหากพักในมหาวิทยาลัย ที่สหรัฐอเมริกาจะต้องแชร์ห้องพัก มีรูมเมท เพราะที่นี่เน้นการมีปฏิสัมพันธ์กันภายในมหาวิทยาลัย ส่วนหอพักของทางมหาวิทยาลัยที่อังกฤษ จะมีการจัดห้องพักเดี่ยวให้กับนักศึกษา เพราะที่นี่เน้นความเป็นส่วนตัว และมีเพียงพื้นที่ส่วนกลางที่นักศึกษาต้องใช้ร่วมกัน
- เกรดนักศึกษา เกณฑ์การให้เกรดนักศึกษาทั้ง 2 ประเทศมีความแตกต่างกัน โดยอเมริกาจะมองภาพรวม พิจารณาจากผลงานทั้งหมดที่นักศึกษาทำ แต่ที่อังกฤษจะดูที่คะแนนสอบปลายภาค และคะแนนการทำโปรเจค การทำวิทยานิพนธ์
จากข้อแตกต่างด้านบน เชื่อว่าน้อง ๆ หลายคนทราบกันดีอยู่แล้ว ว่าทั้ง 2 ประเทศมีข้อดี ข้อเด่นและความแตกต่างกันอย่างไร ทั้งนี้การตัดสินใจเลือกเรียนต่อปริญญาโท ระหว่างที่ประเทศอเมริกาและอังกฤษ ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบส่วนตัวของเราเอง เพราะในมหาวิทยาลัยแต่ละที่ มีสาขาวิชาและความโดดเด่นที่แตกต่างกัน รวมถึงสภาพแวดล้อม วัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ รับรองว่า น้อง ๆ จะได้รับความรู้และประสบการณ์ที่หลากหลายอย่างแน่นอน
หากน้องนักศึกษาคนไหนที่สนใจในการเรียนต่อต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นระดับชั้นมัธยมศึกษา ระดับปริญญาตรี และระดับปริญญาโท สามารถสอบถามข้อมูลและ ศึกษารายละเอียดเรียนต่อปริญญาโทได้ที่นี่ ถ้าต้องการคำปรึกษาเรื่องวางแผนการเรียนต่อต่างประเทศ ที่นี่มีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาให้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น